
บาร์เซโลนาชนะ 20 แพ้ 5 และ 0 แพ้ในลาลีกานำกลุ่มด้วย 65 คะแนนในอันดับและผลงานที่โดดเด่นเกินความคาดหมายของทุกคน โลเนลเมสซี่กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยหลุยส์ซัวเรซและเนย์มาร์ซึ่งเคยภูมิใจในแนวรุกในอดีตถูกตัดการเชื่อมต่อหลังจากที่เนย์มาร์ย้ายไปปารีสแซงต์แชร์กแมงซึ่งกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้บาร์เซโลนาไม่มองโลกในแง่ดีก่อนเริ่มฤดูกาล
นอกเหนือจากการเสียนายพลตัวรุกตัวหลักแล้วบาร์เซโลน่ายังเลือกเอร์เนสโตวัลแวร์เดวัย 54 ปีซึ่งเดิมเป็นโค้ชของบิลเบาเป็นกุนซือคนใหม่เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว โลกภายนอกเคยเชื่อว่าชาวสเปนจะทำให้บาร์เซโลน่าสับสนและยังยืนยันว่านี่จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ผลก็คือวัลแวร์เดเผลอทอดอาหารจานเด็ดและทำให้บาร์เซโลน่าน่ากลัวกว่าเดิม
ในความเป็นจริงในลาลีกาฤดูกาลนี้บาเซิลยังคงใช้ 442 เป็นหลักและพยายามใช้กลยุทธ์การรุกที่หลากหลาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องค้นหาโหมดโจมตีที่ดีที่สุดจากมัน อย่างไรก็ตามแม้จะอยู่ในช่วงทดลองบาร์เซโลนาก็ไม่กลัวที่จะขาดเนย์มาร์ แต่พลังโจมตียังคงแข็งแกร่งและด้วยการป้องกันเหล็ก
บาร์เซโลน่าน่ากลัวแค่ไหน? ทำประตูได้ทั้งหมด 68 ประตูจาก 25 นัดจำนวนประตูเป็นอันดับหนึ่งในลาลีกาเมสซี่ยิง 22 ประตูสเลซยิงได้ 20 ประตูทั้งสองยังครองสองอันดับแรกในรายชื่อผู้ทำประตูการป้องกันเสียเพียง 12 ประตูเท่านั้นดีกว่าการป้องกัน แอตเลติโกมาดริดเริ่มต้นด้วยอีกหนึ่งประตูและกลายเป็นทีมที่มีทั้งรุกและรับ
ร่วมกับฤดูกาลที่แล้วสร้างสถิติไม่แพ้ใคร 32 เกมตลอดทั้งฤดูกาล หากคุณเปิดประวัติลาลีกาบาร์เซโลน่ามีเกมที่ไร้พ่ายแพ้ 31 เกมในฤดูกาล 2010/11 และทำลายสถิติ 30 เกมของเรอัลมาดริดคู่ปรับในฤดูกาล 1988/89 จากนั้นพวกเขาจะพยายามทำลายสถิติ 38 นัดที่เรอัลโซเซียดัดตั้งไว้ในฤดูกาล 1979/80 และสร้างผลงานประวัติศาสตร์หน้าใหม่
13 นัดที่เหลือของบาร์เซโลนาคือรอบที่ 27, 30, 32, 34 และ 36 กับแอตเลติโก, เซบีย่า, บาเลนเซีย, บียาร์เรอัลและเรอัลมาดริดอาจท้าทายสถิตินี้ แต่มี การต่อสู้ทั้ง 3 ครั้งเล่นที่บ้านและไม่ว่าพวกเขาจะสามารถสร้างตำนานอันยิ่งใหญ่ไร้พ่ายได้หรือไม่ได้กลายเป็นหัวข้อที่มีผู้ชมมากที่สุดในลาลีกา