ตามรายงานของ STN Sports สื่อเกาหลีใต้ระบุว่า ทีมชาติเกาหลีใต้จะเล่นรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายในวันที่ 29 มีนาคมนี้ โดยพบกับUAE ที่สนามอัล มักตุม สเตเดียม ในดูไบ
ในเกมที่พบกับอิหร่าน กองหลังตัวกลางเกาหลีใต้ คิมมินแจแสดงถึงข้อได้เปรียบในการป้องกันอย่างท่วมท้น อัซมูนศูนย์หน้าตัวเก่งของอิหร่านถึงกับเล่นไม่ออกเลยทีเดียว คิมมินแจยังได้แสดงศักยภาพและฝีเท้าที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในเกม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ป้องกันด้านข้างอย่างสมบูรณ์ นอกเหนือจากคิมมินแจจะทำหน้าที่ป้องกันได้ดีแล้ว เขายังพยายามส่งบอลให้ทีมบุกโจมตีขู่ได้อยู่หลายครั้ง
ตามรายงาน ในการแข่งขันกับอิหร่าน มีแมวมองจากยุโรปหลายคนมาตรวจสอบผลงานของคิมมินแจในที่นี้: สื่อตุรกีกล่าวเมื่อวันที่ 27 ว่าตัวแทนแมวมองของนาโปลีได้ชมการแข่งขันระหว่างเกาหลีใต้และอิหร่านในฐานะผู้ชมเพื่อคอยสังเกตคิมมินแจ นอกจากนี้ยังแมวมองจากอังกฤษที่มาชมผลงานของคิมมินแจเช่นกัน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สโมสรยุโรปส่งแมวมองไปตรวจผลงานของคิมมินแจ อาร์เซนอล, ท็อตแน่ม และเชลซี ต่างให้ความสนใจกับผลงานของคิมมินแจ และด้วยผลงานที่น่าประทับใจในนัดที่พบกับอิหร่าน คาดว่าแมวมองจากยุโรปเหล่านี้จะมาดูเกาหลีใต้กับUAEต่อ แต่ในนัดที่พบกับอิหร่าน คิมมินแจถูกเปลี่ยนตัวเนื่องจากได้รับบาดเจ็บในนาทีที่ 33 ของครึ่งหลัง โชคดีที่อาการบาดเจ็บไม่ได้รุนแรง ซึ่งคาดการว่าเขาจะได้ลงเป็นตัวจริงในเกมที่พบกับUAE
เกาหลีใต้เสียเพียง 2 ประตูจาก 9 เกมแรกของรอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งสร้างสถิติให้กับทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันเมื่อเทียบกับเกาหลีใต้ อิหร่านเสียไป 4 ประตู และญี่ปุ่นเสียไป 3 ประตู ซึ่งเป็นการป้องกันที่น่าทึ่ง เกาหลีใต้เสีย 10 ประตูจาก 10 นัดในรัสเซีย รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 และในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกปี 2014 ที่บราซิลเสียไป 7 ประตูจาก 8 เกม และตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือคิมมินแจ
การเข้าร่วมรายการระดับนานาชาติอย่างเช่นฟุตบอลโลกถือเป็นทางลัดในการเข้าสู่ลีกหลักของยุโรป ซึ่งคิมมินแจก็ได้รับความสนใจจากหลายๆทีม หากเขาทำผลงานได้ดีในบอลโลก อาจนำมาสู่การพัฒนาในอนาคตของคิมมินแจ และจุดเริ่มต้นของทั้งหมดนี้คือนัดสุดท้ายกับทีม UAE ในรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย มุ่งมั่นให้ผลเสียประตูเป็นศูนย์