โหมโรงศึกสายเลือด ‘เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้’ ตอนที่ 1

ขยับเข้าใกล้มหาแมทช์ “เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้” ที่เจอกันในวันเสาร์นี้ 18.30 น.ที่กูดิสัน พาร์ค ขอเปิดตำนานวอร์มอัพก่อนหน้าการแข่งขันให้กับทุกท่านในเวลา 7 โมงเช้านับจากนี้ไปถึงแมทช์เดย์ เริ่มต้นเรื่องแรกกันที่การกำเหนือของ เอฟเวอร์ตัน และกำเนิดแอนฟิลด์ ที่ไม่มีคำว่า “ลิเวอร์พูล” อยู่ในสารบบ

……….หากนับเฉพาะ “เมืองลิเวอร์พูล” ถิ่นดินแดนนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ.1207 หรือกว่า 800 ปี หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นที่นี่ เพราะที่นี่เป็นเมืองท่าที่สำคัญของ อังกฤษ และของโลก ที่นี่มีเรือที่เปลี่ยนความเชื่อของทุกคนนั่นคือ ไททานิค ที่นี่เป็นเมืองกำเนิดวงดนตรีชื่อดังที่เปลี่ยนการฟังเพลงไปตลอดกาลอย่าง “เดอะ บีทเทิลส์”

แต่ในยุคปัจจุบัน หากพูดถึงเมืองนี้ ทุกคนจะนึกถึง ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ ก่อนเป็นลำดับแรก ขนาด”เมืองลิเวอร์พูล”มีข่าวคนติดเชื้อโควิด สื่อประเทศนี้เมืองนี้บางแห่งยังหลงทาง นำภาพ”สโมสรลิเวอร์พูล”ไปประกอบข่าวใหญ่โต จนสร้างความเข้าใจผิดแบบ”เต็มตีน”กันมาแล้ว!!!!! ไม่เกี่ยวว่า คนติดเชื้อจากเมืองคนแรกจากมาจากฝั่งเบอร์คเค่นเฮด หรือ “ลิเวอร์พูลฝั่งธน” แต่มันเป็นความคลาดเคลื่อนที่เพลี๊ยเพลียจริงๆ!!!

เส้นทางสู่การสร้างสโมสรแห่งนี้ ไม่ได้มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้าที่จะมีสโมสรลิเวอร์พูล ที่นี่มีสโมสรเอฟเวอร์ตัน ฟุตบอล คลับ เพียงทีมเดียวเท่านั้น หรือชื่อแรกของพวกเขาคือ เซนต์ โดมิงโก ชื่อของ “เซนต์ โดมิงโก” คือนามแห่งมหาวิหาร ที่เกิดขึ้นมาจากคณะเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล มีการลงมติให้สร้างโบสถ์ และโรงเรียน เพื่อให้ผู้คนมารวมกันในทุก ๆ วันอาทิตย์ เพื่อทดแทนโบสถ์เก่าทั้งหมด 3 แห่งที่ทรุดโทรม โดยกำหนดให้สร้างขึ้นที่เขตเอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1870

มหาวิหารแห่งนี้จึงเป็นรวมจิตใจของชาวคริสต์ในเมือง จากนั้นก็คือมีกิจกรรมทางด้านอื่น ๆ เข้ามาโดยเฉพาะกีฬาคริกเก็ต ก่อนจะมีการขออนุญาตในการจัดตั้งสโมสรฟุตบอลในปี ค.ศ.1878 ชื่อว่า “เซนต์ โดมิงโก” หนึ่งปีต่อมา……….สโมสรแห่งนี้เป็นที่ชื่นชอบของชาวเมอร์ซี่ย์ไซด์ และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “เอฟเวอร์ตัน” เหตุผลที่เปลี่ยนชื่อคืออะไร???

ตอบก็คือ “ตามชื่อเขต” นั่นเอง
พร้อมกับใช้สนามบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ ของสวนสาธารณะสแตนลี่ย์ พาร์ค เป็นสนามเหย้า ซึ่งพวกเขาอยู่ในแลงคาเชียร์ลีก เกมแรกที่ลงเตะในสแตนลี่ย์ พาร์ค คือ 20 ธันวาคม 1879 กระทั่งปี 1882 สมาคมฟุตบอลแลงคาเชียร์ ออกกฎว่า ทุกสโมสรจะต้องมีสนามหลักเป็นของตัวเอง เท่ากับ เอฟเวอร์ตัน ต้องหาพื้นที่ใหม่ทันที หลังจากไปเล่นที่ พิออรี่ สตรีท ซึ่งเป็นที่ดินบริจาคของ มร.เจ ครุยท์ อยู่ 2 ปี กลุ่มนักเตะเอฟเวอร์ตัน ก็ต้องยกพลมาเล่นที่สนามแอนฟิลด์

ใช้แอนฟิลด์เป็นรังเหย้า ปี 1884 ให้หลังจากนั้น 4 ปี ปฏิทินหมุนมาที่ปี 1888 นับเป็น”ปีแรก”ที่ระบบ”ฟุตบอลอังกฤษ”ได้เปิดรับ”สมาชิกทั่วประเทศ” เป็นครั้งแรก ปีนั้นมีทั้งสิ้น 12 สโมสรในยุค”แรกแย้ม” นั่นคือ เปรสตัน นอร์ธเอนด์, แอสตัน วิลล่า, วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส, เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน, แอคคริงตัน, เบิร์นลี่ย์, ดาร์บี้ เคาน์ตี้, น็อตต์ส เคาน์ตี้, สโต๊ค ซิตี้ และเอฟเวอร์ตัน

ซีซั่นนี้จบลงด้วยการเป็นดับเบิ้ลแชมป์ของ เปรสตัน
ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน จบอันดับที่ 8 มี 20 คะแนน ปีต่อมา เอฟเวอร์ตัน ทะยานมาลุ้นแชมป์ทันที แต่สุดท้ายแพ้ เปรสตัน ไปหวุดหวิดแค่ 2 คะแนนเท่านั้น ก่อนที่จะประสบความสำเร็จเป็นแชมป์สมัยแรก ในปีที่ 3 ของฟุตบอลลีกยุคแรก นั่นคือ ซีซั่น 1890-91 ด้วยการเอาชนะ เปรสตัน ได้สำเร็จ โดยมี 29 คะแนน ส่วน เปรสตัน 27 คะแนน พวกเขาได้เถลิงแชมป์บอลลีกครั้งแรก ในยุคที่อยู่ในแอนฟิลด์!!!!!

โดยตอนนั้นพวกเขายังไม่ใช้ “ทอฟฟี่เมน” แต่อย่างใด เพียงแต่ชุดแข่งขันคือ “สีน้ำเงิน”

การเป็นแชมป์ครั้งนั้น ได้มีการทำเหรียญที่ระลึกของการเป็นแชมป์ โดย เอฟเวอร์ตัน ใช้สัญลักษณ์ประจำเมืองอย่าง “ไลเวอร์ เบิร์ด” มาทำ และตัวนกเป็น”สีน้ำเงิน” ตามสีของสโมสร ว่ากันถึง หนึ่งในคณะบุคคลที่เป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการก่อตั้งสโมสรเอฟเวอร์ตัน

นั่นก็คือ มร.จอนห์ โฮลดิ้ง
มิสเตอร์โฮลดิ้ง ณ ขณะนั้น ดำรงค์ตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล เป็นนักการเมืองแห่งพรรคอนุรักษ์นิยม ในฐานะประธานสโมสรของเอฟเวอร์ตัน คือผู้ที่นำมา เอฟเวอร์ตัน มาสู่ แอนฟิลด์ ………….แอนฟิลด์ เป็นพื้นที่ของ จอห์น โอเรล เพื่อนสนิท จอห์น โฮลดิ้ง ซึ่ง โอเรล เป็นเจ้าของธุรกิจเบียร์ท้องถิ่น สัญญา ณ เพลานั้น ทีมต้องจ่ายค่าเช่าสนาม ด้วยสนนราคา ปีละ 100 ปอนด์ หนึ่งปีต่อมา จอห์น โฮลดิ้ง ได้ซื้อที่ดินนี้จาก จอห์น โอเรล ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ก่อนที่ เอฟเวอร์ตัน จะก้าวเข้าไปเป็นสมาชิกของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ในปี 1888 ให้หลังได้ 3 ปีเศษ ๆ จอนห์ โฮลดิ้ง ได้มีปัญหาในเรื่องของธุรกิจการค้าขายในสนาม รวมไปถึงเรื่องของการบริหาร เรื่องของการจัดการ สารพัดปัญหาก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ

หนักที่สุดก็คือ เรื่องค่าเช่าสนาม
จอห์น โฮลดิ้ง ขอเพิ่มจากเดิม 100 ปอนด์ เป็น 250 ปอนด์ต่อปี รวมถึงสโมสรต้องรับผิดชอบค่าตกแต่งอัฒจันทร์และอื่น ๆ อีกจิปาถะ นั่นคือ “ศึกใน” โปรโมชั่นแถมเรื่องของ “ศึกนอก” ตอกย้ำเข้าไปอีกที เมื่อ จอห์น โฮลดิ้ง มีกรณีพิพาทเรื่องที่ดินกับ จอห์น โอเรล ที่เป็นเพื่อนสนิทกันแท้ ๆ การทะเลาะกันในคราครั้งนี้ เป็นที่ดินผืนเล็ก ๆ หน้าแอนฟิลด์ แต่ประเด็นก็คือ ถึงผืนจะเล็ก แต่เรื่องไม่เล็กนะครับ เพราะดันเป็นทางเข้าออกของสนาม!!! เรื่องราวทั้งหมดประดังประเดเข้ามา จนสุดท้ายก็หนีความแตกหักไม่ได้……………..

Scroll to Top